กันมดบุกบ้านในหน้านี้

หน้าร้อนอย่างนี้ก็จะมีมรสุมเข้ามาเป็นระยะๆ อากาศร้อนฝนตก มดก็ออกมาหาอาหารบ้าง ย้ายรังบ้าง ทำให้เกิดความรำคาญแก่คนในบ้านและผู้พบเห็นทั่วไป แม้ว่าเราจะทำความสะอาดไว้ดีเท่าไหน ก็ยังมีมดมาเดินให้กวนใจตลอดเวลา
การกำจัดมด โดยไม่บาปนั้น ก็ต้องกำจัดกลิ่นฟีโรโมนที่มดใช้ในการสื่อสารกันเอง มีหลายวิธีมากแนะนำดังนี้
1. ใช้วิธีลบกลิ่นด้วยการใช้สำลีชุบน้ำ หรือน้ำส้มสายชู เช็ดบริเวณที่เป็นทางเดิน
2. ใช้เอนไซน์สมุนไพรที่มีกลิ่นฉุน เช่น กาแฟ หรือ น้ำมันหอมก็ช่วยได้
3. บริเวณขาโต๊ะ หรือตู้กับข้าว ให้น้ำผ้าชุบน้ำมันก๊าด หรือน้ำมันเครื่อง พันรอบขาโต๊ะไว้ ก็ป้องกันมดได้ค่ะ แต่ระวังอย่าให้ส่วนอื่นๆ ของโต๊ะสัมผัสสิ่งอื่นๆ ที่ทำให้มดเดินไปได้
4. ใช้แป้งฝุ่นโรยบริเวณที่มดเดินผ่าน
5. หมั่นตรวจเช็คของในบ้าน ในบริเวณอับชื้นต่างๆ หรือมุมอับ ที่มดอาจจะย้ายมาทำรังชั่วคราวถึงถาวรได้

มาประหยัดพลังงานกันดีกว่า

บนโลกเรามีพลังงานต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะพลังงานจากเชื้อเพลิงต่างๆ พลังงานจากความร้อนและแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ พลังงานจากน้ำ-ลมในการผลิตกระแสไฟฟ้า พลังงานเหล่านี้ทำให้มนุษย์อยู่บนโลกนี้ได้ ไม่ว่าจะใช้ในการหุงต้มอาหาร เครื่องใช้ในบ้าน อุปกรณ์สำนักงาน ไฟฟ้าส่องสว่าง การซักผ้า อาบน้ำ การทำงาน
แต่พลังงานหลักสำคัญที่สุดคือพลังงานเชื้อเพลิงจากน้ำมัน ใช้ในการขนส่งเป็นหลัก ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางน้ำ แม้พลังงานชดเชยจะมีให้เห็นอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโซลาร์เซลล์ เครื่องปั่นไฟพลังน้ำ กังหันลม และอื่นๆ อีกมากมาย ก็ไม่สามารถให้พลังงานในการขับเคลื่อนได้มากเท่ากับพลังงานที่ได้จากน้ำมัน
เพราะมีคนใช้พลังงานจากน้ำมันในทุกๆวัน จากประชากรโลกทั้งหมด 7000 ล้านคน ทำให้พลังงานถูกใช้หมดไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นนอกจากพลังงานชดเชยแล้ว เราทุกคนควรตระหนักถึงการประหยัดพลังงานให้มาก
การประหยัดพลังงานมีหลากหลายวิธีมากมาย วันนี้จะนำเสนอเพียงส่วนนึงเท่านั้น
1.ปิดไฟทุกครั้งที่เราไม่ได้ใช้ หรือใช้อุปกรณ์ช่วยในการกระจายแสงติดที่หลอดไฟ แล้วปิดดวงที่ไม่ได้ใช้ ก็จะประหยัดไปได้ครึ่งนึง
2.ปิดน้ำในขณะแปรงฟัน หรือ ฟอกสบู่ เพราะเราสูญเสียน้ำไป 1-2 ลิตร และหมั่นตรวจดูรอยรั่วของท่อประปาในบ้านเป็นประจำ
3.เวลารีดผ้าให้รีดหลายๆ ตัว โดยรีดจากผ้าบางไปจนถึงผ้าหนาๆ ในสัปดาห์อาจจะรีดผ้า 1 ครั้ง
4.เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าประเภทประหยัดไฟ
5.หมั่นตรวจลมยางรถให้อยู่ในระดับมาตรฐาน จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มาก
6.ขับรถด้วยความเร็วสูงสุด 90 กม./ชม. ที่ 2,000-2,500 รอบ ก็จะประหยัดน้ำมันได้มาก
7.ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้อยู่ที่ 25 องศา ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ช่วยประหยัดไฟมากที่สุด

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการประหยัดพลังงานเท่านั้นนะคะ หากใครมีวิธีการประหยัดพลังงานที่มากกว่านี้ก็มา Comment บอกกันนะคะ

ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง

ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง สำหรับคนที่รักสุขภาพสิ่งสำคัญที่สุดคือ เวลาในยามเช้า เพราะอากาศยามเช้าทั้งสะอาด สงบ สดชื่น อุดมไปด้วยออกซิเจน น้ำค้างที่ให้ความสดชื่น การออกกำลังกายในยามนี้ร่างกายจะได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะวิ่ง โยคะ หรือไทเก๊ก ก็ไกได้ทั้งนั้น นอกจากนั้นก็ไม่ควรพลาดการขับถ่าย การดื่มน้ำและการทานอาหารเช้าเพราะหลังจากที่เรานอนหลับพักผ่อนกว่า 8ชั่วโมง ร่างกายเราขาดทั้งน้ำ อาหาร และการขับถ่าย ดังนั้นหลังจากตื่นนอนแล้วควรดื่มน้ำอุ่นสัก2แก้ว ค่อยๆดื่มไม่ต้องรีบร้อน อบอุ่นร่างกายสักหน่อยเพื่อกระตุ้นการขับถ่าย 
คนทีมีสุขภาพดีจะขับถ่ายในช่วงเช้าไม่เกิน7โมง และขับถ่ายเพียงครั้งเดียว เพื่อไม่ให้ของเสียตกค้างในร่างกาย สำหรับการทานอาหารเช้าควรทานไม่เกิน8.30 ทานอาหารอ่อนมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ก๋วยเตี๋ยวน้ำ ผัดซีอิ้ว เป็นต้น อาจปรุงรสด้วยน้ำสัมสายชูเล็กน้อย (ขอย้ำว่าเล็กน้อยจริงๆ พอออกรสเปรี้ยว เพื่อบำรุงกระเพาะอาหาร) หรือทานกับน้ำส้มคั้น ไม่ควรทานมากเกินไป เพราะทานรสเปรี้ยวมากเกินไปจะทำลายกล้ามเนื้อ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้กระเพาะอาหารทำงานหนักจนเกินไป การทานอาหารเช้าช่วยให้สมองได้รับสารอาหาร คนที่ไม่ชอบทานอาหารเช้า ก็จะมีโอกาสเป็นโรคสมองเสื่อมได้มากกว่า
การทานอาหารกลางวัน ควรทานแต่พอดีไม่ให้อิ่มมากเกินไป ควรทานอาหารที่ออกรสขมเล็กน้อย เพื่อช่วยใตับให้ขับน้ำดีทำงานได้อย่างเต็มที่ น้ำดีจะช่วยย่อยอาหารประเภทเนื้อได้ดี การทานอาหารมากเกินไปจะทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนัก เพราะเนื้อที่ที่จะให้น้ำดีทำงานมีน้อย จะทำให้รู้สึกอึดอัด แน่นท้อง ท้องอืดและเฟ้อได้ 
สำหรับอาหารเย็น ควรทานแต่น้อย เพราะเป็นช่วงเวลาที่เราใกล้พักผ่อน ทำให้ลำไส้ทำงานน้อยลง อาการเพลียหลังตื่นนอนจะไม่มี อาหารที่ทานควรออกรสเผ็ดร้อนสักหน่อย เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นจากอากาศที่เย็นลงเรื่อยๆ ในตอนกลางคืนจนถึงเช้า
หากทุกคนทำได้อย่างนี้เราจะมีร่างกายที่แข็งแรง อายุยืน ไม่เจ็บป่วยไข้ ขอให้ทุกคนเป็นคนที่มีสุขภาพดี อารมณ์ดี

วิธีการเลือกแปรงสีฟัน ยาสีฟัน ให้เหมาะกับสุขภาพฟันของคุณ

การเลือกใช้แปรงสีฟัน การเลือกแปรงสีฟันราคาแพงอาจจะไมม่ได้หมายความว่าจะถูกสุขภาพกับช่องปากของคุณ วิธีการเลือกแปรงสีฟันให้เหมาะกับสุขภาพปากและฟันของแต่ละคนจะช่วยให้คุณรักในการแปรงฟันและมีสุขภาพฟันที่แข็งแรงด้วย
การเลือกและการใช้แปรงสีฟัน
1.ด้ามแปรงตรง งอได้เล็กน้อยตรงคอแปรงเพื่อให้ซอกซอนถึงด้านในซอกฟัน
2.ขนแปรงอ่อนนุ่มไม่ทำลายเหงือกให้ช้ำได้
3.ปลายขนกลมมนไม่คมให้บาดเหงือกได้
4.เลือกขนแปรงสีขาวจะช่วยให้เห็นสิ่งตกค้างต่างๆ ได้ง่าย ทำให้ดูแลแปรงสีฟันได้ง่าย
5.ขนาดแปรงสีฟันต้องไม่ใหญ่คับปากเกินไป
6.แปรงสีฟันสำหรับเด็กควรเลือกที่มีการระบุอายุเด็กด้วย
7.ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุก 3-4เดือน เพราะแปรงสีฟันจะกักเก็บเชื้อโรค
8.ไม่ควรใช้แปรงสีฟันร่วมกับผู้อื่น
9.เมื่อใช้แปรงสีฟันแล้วล้างน้ำให้สะอาด สะบัดให้แห้ง แล้วผึ่งไว้ในที่ลมโกรก ไม่เก็บในที่มิดชิด
การเลือกใช้ยาสีฟัน
1.ยาสีฟันเพื่อป้องกันคราบหินปูนเหมาะกับผู้ที่ชอบสูบบุหรี่ ทานกาแฟ ฟรือดื่มชา เพราะมีสารไททาเนียมไดออกไซด์ ช่วยขจัดคราบสีได้ แต่ไม่ใช่ใสปิ้งเหมือนสารฟอกฟัน
2.ยาสีฟันที่ช่วยลดอาหารเสียวฟัน ช่วยเคลือบฟันทำให้ลดอาการเสียวฟัน
3.ยาสีฟันสมุนไพร เหมาะสำหรับคนที่ชอบใช้สมุนไพร ไม่เหมาะกับคนที่แพ้สมุนไพร
4.ยาสีฟันสำหรับเด็กจะมีสารฟลูออไรด์ ช่วยดูแลฟันของเด็กให้แข็งแรง
นอกจากการแปรงฟันอย่างถูกวิธีแล้ว การเลือกกินอาหารที่ถูกต้อง ควรงดขนมหวานและของจุบจิบ อย่าหวังพึ่งการแปรงฟันอย่างเพียงอย่างเดียว
โรคที่ก่อให้เกิดกลิ่นปาก ได้แก่ โรคตับ โรคไต เบาหวาน โรคทางเดินอาหาร ไซนัสอักเสบ ปอดอักเสบ ฯลฯ ดังนั้นนอกจากดูแลสุขภาพปากและฟันแล้ว ควรดูแลสุขภาพด้วย ควรพักผ่อนอย่างเพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ทำทางเดินในสวนใหม่

     อิฐบล็อกตัวหนอนเป็นอิฐบล็อกคอนกรีตขนาดเล็กที่มีรูปร่างซิกแซกคล้ายตัวหนอน เมื่อนำมาเรียงต่อๆ กันเข้าอิฐบล็อคกันเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ ก็ทำให้ทางเดินดินธรรมดากลายเป็นทางเดินดีๆ เรียบๆ หรูๆ แต่ราคาประหยัดไปทันใด เราจะทำทางเดินทางไหนก็ได้ จัดลวดลายแบบไหนก็ได้ จะรื้อถอนเพื่อติดตั้งแนวเดินใหม่ก็ได้ การดูแลก็ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องเทปูนให้ดูยุ่งยากแต่อย่างใด แต่เมื่อทางเดินอิฐบล็อคตัวหนอนที่ใช้ไปนานๆ เจอฝน เจอแดด ทางเดินที่เคยเรียบๆ ก็บิดเบี้ยวไม่เป็นทางจากดินด้านล่างที่ชื้นแฉะ การรองรับน้ำหนักเมื่อต้องเดินผ่านบ่อยๆ ทำให้อิฐบล็อกไม่อยู่ในร่องที่เคยอยู่ ทำให้ผู้สูงอายุที่อยากจะเดินชมสวนหกล้มได้ หรือเด็กเล็กๆ ก็อาจสะดุดหกล้มเฉอะแฉะไปตามๆ กัน     วิธีการแก้ไขก็คือ รอวันที่อากาศดีสักหน่อย ฝนฟ้าไม่ตก ดินแห้งดีแล้ว เตรียมทรายไว้ให้พร้อม ก่อนอื่นรื้อแนวอิฐบล๊อคเดิม โดยจัดเรียงให้ซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบ เพื่อให้สะดวกเวลาหยิบมาเรียงใหม่ จากนั้นขุดดินออกให้ลึกประมาณ 1 นิ้ว สม่ำเสมอ เพื่อเป็นแนววางอิฐบล็อกและทำเป็นขอบกันเลื่อน ปรับดินที่เดิมให้เรียบและอัดดินให้แน่นๆ การใช้ดินเหนียวจะช่วยให้ดินแน่นทนทาน แต่ต้องไปไม่แฉะจนเกินไป จากนั้น ลงทรายแล้วเกลี่ยให้ทั่วสม่ำเสมอ รดน้ำ เพื่อให้ทรายอัดกันแน่นขึ้น จากนั้นก็เรียงอิฐบล็อกตัวหนอนให้ต่อๆ กันไปอย่างเป็นระเบียบ ในระหว่างที่เรียงนั้นให้ฉีดน้ำและใช้ค้อนยางทุบอิฐบล็อกให้เข้าแนว ใช้ทรายอัดร่องระหว่างอิฐบล็อกให้แน่นค่ะ

ประหยัดค่าแอร์กันเถอะ

    บ้านสูงๆ กว้างๆ โล่งๆ เป็นที่โล่งตา โล่งใจ กับผู้อาศัยมากกว่าบ้านเล็กๆ แคบๆ ถ้าคุณไม่มีปัญหาเรื่องค่าไฟละก็ บ้านในฝันย่อมดีกว่าแ่น่นอน แต่สำหรับบางคนที่ต้องการหาวิธีประหยัดค่าไฟอยู่ละก็ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเรื่องนึงทีเดียวค่ะ ก่อนอื่นต้องสำรวจก่อนว่าเครื่องปรับอากาศที่บ้านคุณนั้นมีกี่คิว (เรื่องนี้ดูรายละเอียดได้ที่ตัวเครื่องค่ะ จะบอกยี่้ห้อ รุ่น ค่า BTU (ตัวนี้ละคะคือคิว หรือขนาดความเย็นของเครื่องปรับอากาศ เช่น 1 ตัน = 12,000 BTU ) ควรเลือกขนาดของ BTU ให้ใกล้้เคียงกับขนาดห้องของคุณ ถ้าขนาด BTU มากไปคอมเพรสเซอร์จะตัดบ่อย ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศน้อยลง ทำให้ความชื้นในห้องสูง หายใจไม่สะดวก ถ้าเลือกต่ำไปก็จะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานตลอดเวลา เปลืองไฟมากและทำให้เครื่องปรับอากาศเสียเร็ว

ตารางคำนวนค่า BTU กับขนาดเนื้อที่ห้อง (ตารางเมตร)

Btu/h	ห้องปกติ	ห้องโดนแดด
9,000	12-15 ตร.ม.	11-14 ตร.ม.
12,000	16-20 ตร.ม.	14-18 ตร.ม.
18,000	24-30 ตร.ม.	21-27 ตร.ม.
21,000	28-35 ตร.ม.	25-32 ตร.ม.
24,000	32-40 ตร.ม.	28-36 ตร.ม.
25,000	35-44 ตร.ม.	30-39 ตร.ม.
30,000	40-50 ตร.ม.	35-45 ตร.ม.
35,000	48-60 ตร.ม.	42-54 ตร.ม.
48,000	64-80 ตร.ม.	56-72 ตร.ม.
80,000	80-100 ตร.ม.	70-90 ตร.ม.

    เมื่อค่า BTU สัมพันธ์กับขนาดของห้อง การที่เราจะปรับขนาดห้องจึงเป็นเรื่องที่ทำให้คุณประหยัดค่าไฟได้มาก คุณอาจเลือกใช้วิธีหลายๆ แบบในการปรับขนาดห้อง ตั้งแต่ ทำฉากกั้นแบ่งพื้นที่ห้อง หรือแม้แม้กระทั่งการปรับเพดานฝ้าให้ต่ำลงก็จะช่วยคุณได้มาก

    อ่อ  แล้วก็อย่าลืมทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศของคุณเป็นประจำนะคะ การล้างฝุ่นตะแกรงกรองอากาศช่วยเรื่องให้อากาศไหลเวียนได้ดี และยังช่วยประหยัดค่าไฟคุณได้มาก
    ข้อแนะนำ  
     การล้างตะแกรงคุณอาจถอดมาล้างได้เองในทุกๆ เดือน แต่สำหรับการล้างใหญ่ (ล้างเครื่องด้านใน) ควรให้ช่างที่มีความชำนาญมาช่วยล้างจะดีกว่าค่ะ ควรทำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หรือทุก 6 เดือน ราคาค่าล้างก็ตกอยู่ราวๆ 700-1,000 บาทต่อครั้งค่ะ

ซ่อมมุ้งลวด

     บ้านไหนๆ ก็ใช้มุ้งกันค่ะ เพราะประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ยุงและแมลงเล็กๆ ก็มีมากมาย ดังนั้นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้ป้องกันสัตว์เล็กๆ อย่างนี้ไม่กวนใจเราก็คือมุ้ง นะเองค่ะ
    มุ้งมีลักษณะเป็นตาถี่ๆ ส่วนใหญ่ถูกขึงด้วยโครงเหล็กบ้าง โครงไม้บ้าง เพื่อใช้ประโยชน์ในการกันแมลงตัวเล็กๆ เช่น ยุง แมลงวี่ แมลงวัน
    มุ้งมีหลายประเภท ตั้งแต่ มุ้งสีขาที่ใช้กางนอนในตอนกลางคืน มุ้งกันแมลงวันตอมอาหาร หรือมุ้งประตูหน้าต่าง ที่ปัจจุบันนิยมกันมากเพราะทำครั้งเดียวก็ใช้ไปได้นานๆ ไม่ต้องกาง-เก็บทุกวันให้ยุ่งยาก และมุ้งก็มีให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบมุ้งลวดและมุ้งพลาสติก แต่ที่นิยมกันส่วนมากก็จะเป็นแบบมุ้งลวด เพราะประหยัด ทนทานกว่าแบบอื่นๆ แต่ข้อเสียคือ ถ้าโดนแดดนานๆก็จะผุ หรือถ้าขัดแรงหรือเกี่ยวโดนอะไรเข้าก็จะขาดได้ง่าย ยุงหรือแมลงต่างๆ ก็เข้ามารบกวนเราได้ค่ะ
    ดังนั้นเมื่อของเสียหายเกิดขึ้นเราก็ควรรีบแก้ไขทันที่ การซ่อมมุ้งลวดไม่ใช่เรื่องยากค่ะ เพียงแค่หาซื้อแผ่นมุ้งมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่กว่ารอยแผลเก่าเล็กน้อย แล้วเลาะเส้นลวดทั้งสี่ด้านออกด้านละ3-4 เส้นออก แล้วงอลวดใ้ห้พอดีสวยงาม แล้วสอดเข้าร่องลวดเก่า ล็อกเข้ากันด้วยการงอขาของเส้นลวดใหม่เข้ามา แค่นี้เองค่ะ ไม่ต้องติดด้วยเทป หรือกระดาษกาวให้ดูน่าเกลียด หรือใครจะหาซื้อแบบสำเร็จแล้วก็ได้นะคะ แต่ต้องวัดขนาดให้เรียบร้อยเสียก่อนที่จะไปซื้อค่ะ เท่านี้เองค่ะที่จะทำให้คุณได้มุ้งลวดใหม่ แม้มีรอยปะบ้าง แต่ก็ช่วยคุณไม่ให้ต้องโดน(ยุง)รุมทึ้ง แถมยังช่วยคุณประหยัดเงินโดยไม่ต้องเปลี่ยนทั้งบานด้วยค่า

ซ่อมเก้าอี้เก่าให้ดูใหม่

    เก้าอี้ เป็นคำทับศัพท์มาจากจีน คือ เกาอี้ คือที่นั่งสูงจากพื้น เก้าอี้ยุคแรกๆ รูปทรงที่คุ้นเคยก็เหมือนเก้าอี้ร้านก๋วยเตี๋ยวสมัยก่อนนั่นเอง ต่อมาได้มีการประยุกต์ให้มีพนักพิง ที่ท้าวแขน เบาะ และอีกต่างๆ มากมาย แต่พื้นฐานก็คือ การนั่งที่สูงกว่าระดับพื้นนะเองค่ะ
    เริ่มแรกเก้าอี้ทำจากไม้ ต่อมาก็เป็นพลาสติก แล้วก็มีนู่นนี่นั่นตามมา ตามฐานะ และความสะดวกสบายของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเก้าอี้แบบไหน เราก็ต้องใช้กันทุกบ้านทุกคน
    โครงสร้างเก้าอี้ปัจจุบันมีหลายแบบ ทั้งแบบโครงสร้างดั่งเดิม ที่เป็นสี่ขา และแบบสมัยใหม่ หรือเก้าอี้ติดล้อที่ใช้กันในสำนักงานต่างๆ ดังนั้นลักษณะความเสียหายจึงแตกต่างกันไปตามโครงสร้างนั้นเอง
    ดังนั้นการซ่อมแซมก็ต้องพิจารณาตามโครงสร้างของเก้าอี้นั่นเองค่ะ
 - ถ้าโครงสร้างรูปทรงไม่ยุ่งยากมาก เป็นแบบเก้าไม้วงกลมธรรมดา แต่ความเก๋าของสีมันชัดเจน อย่างเช่น เก้าอี้ไม้ตัวโปรดของอาม่า ก็เพียงขัดสีเก่า ลงสีใหม่ แล้วพ่นชแล็ค หรือถ้าต้องเปลี่ยนขาก็ควรหาช่างที่มีความชำนาญเรื่องไม้มาแก้ไขจะช่วยได้มากกว่าทำเองนะคะ เพราะงานไม้เป็นงานที่ต้องอาศัยความชำนาญค่ะ
 - ถ้าเป็นเก้าอี้สมัยใหม่หน่อยมีติดล้อด้วย แต่ล้อมันหลุดไปแล้ว ให้ลองหาซื้อล้อใหม่ดู ตามร้านขายอุปกรณ์ช่าง มีให้เลือกหลายแบบ เปลี่ยนล้อใหม่ก็ใช้ได้แล้ว
 - ถ้าเก้าอี้ที่ใช้เป็นเบาะหุ้มเปื่อยขาดแล้ว ลองไปหาร้านที่รับทำหุ้มเบาะ มีลายหลายแบบให้เลือกมากมาย ที่ต้องแนะนำไปที่ร้านเพราะ ความชำนาญของช่าง และอุปกรณ์ที่ใช้เย็บก็ดีกว่า ถ้าเราทำเอง รูปทรงของเบาะอาจเปลี่ยนไปก็ได้ ดีไม่ดีเข็มเย็บหนังอาจจะจิ้มมือคุณ เป็นรูใหญ่ก็ได้น้า
 - ขาเก้าอี้ กระบอกโช้ค หรืออะไรหลุด เดี๋ยวนี้เค้ามีอะไหล่ขายกันมากมายลองเข้าเวปไปชมได้

เท่านี้ก็ไม่ต้องเสียเก้าอี้สุดรักไป หรือต้องเสียเงินไปซื้อเก้าอี้ใหม่ให้เปลืองเงินอีก

ประโยชน์จากกากชา

     น้ำชา นอกจากจะให้ความสดชื่น สดใส กับผู้รับประทานแล้ว ยังมีประโยชน์ในเรื่องของการต้านอนุมูลอิสระ ใครที่ทานน้ำชาบ่อยๆ และทานเป็นประจำ ก็จะช่วยลดไขมันส่วนเกิน ลดไขมันในเส้นเลือด และยังทำให้ผิวพรรณผ่องใสไร้สิวฝ้า ด้วยค่ะ
      การทานช้าให้เกิดประโยชน์นั้น ควรใช้น้ำร้อนลวกใบชาก่อนในน้ำแรก เพื่อเป็นการกระตุ้นใบชา และเป็นการล้างทำความสะอาดใบชาด้วย น้ำที่ใช้จะต้องร้อน 97-100 องศา จึงจะดีที่สุด หลังจากลวกใบชาแล้วก็ลวกภาชนะที่ใช้พักชาด้วย เพืื่อทำความสะอาด เพราะใบชาไม่มีคราบไขมันจึงไม่จำเป็นต้องล้างด้วยน้ำยาล้างจาน แค่ลวกน้ำอย่างเดียวก็ใช้ได้ค่ะ เมื่อลวกทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็เติมน้ำร้อนในใบชาอีกครั้ง แช่ไว้ประมาณ 1 นาที ก็สามารถรับประทานได้เลย เราจะได้ประโยชน์จากชามากที่สุดก็คือช่วงเวลานี้ ถ้าแช่นานเกินไปก็จะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี เพราะสารต่างๆ ในชาจะถึงธาตุแคลเซียมในร่างกาย ทำให้กระดูกผุได้ง่าย หรือทำให้ท้องผูกได้ถ้าทานชาแก่มากๆ (เหมาะสำหรับคนท้องเสียค่ะ ให้ทานชาแก่)
     ด้วยประโยชน์ และคุณสมบัติสำคัญของการชะล้างไขมันนี่เอง ทำให้เราสามารถนำกากชาที่เหลือจากการกินน้ำชาแล้ว มาใช้ในการล้างคราบไขมันจากจานชามที่เราให้ทานอาหารได้ค่ะ
     วิธีการใช้กากชา ก็คือ นำกากชาที่ใช้แล้วเช็ดทำความสะอาดจากก่อน ที่จะนำจานไปล้างด้วยน้ำยาล้างจาน วิธีนี้จะช่วยประหยัดน้ำยาล้างจานได้มากทีเดียวค่ะ เพราะคราบไขมันต่างๆ ได้หลุดออกไปแล้วอย่างมากในตอนแรก นอกจากจานจะสะอาดขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ปราศจากกลิ่นคาวต่างๆ ได้ด้วยค่ะ
      ประโยชน์ของชามีอีกหลายอย่าง ก็คือกากชาที่ใช้แล้ว นำมาทำเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้คะ นอกจากเป็นปุ๋ยแล้วยังช่วยไล่แมลงด้วยค่ะ ที่บ้านทำเป็นประจำ

ทำบ้านให้เย็นขึ้น ช่วยลดค่าไฟ

     ใกล้เข้าเดือนเมษายนแล้ว ซึ่งจะเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของปี หลายบ้านเริ่มกังวลกับค่าไฟเดือนเมษานี้กันแล้วใช่ไหม อย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ เรามารับมือกับสภาพอากาศร้อนกันเถอะ
     ทำรอบบ้านให้ร่มเย็น ต้นไม้ทุกต้นมีค่า ให้หมั่นดูแลรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ เมื่อต้นไม้สดชื่น บ้านเราก็จะเย็นสดชื่นไปด้วย ให้ริดกิ่งที่บังทางลมออก เพื่อให้ลมพัดเข้าบ้านได้มากขึ้น
     ทำความเครื่องปรับอากาศ เพราะการทำงานของเครื่องปรับอากาศคือ จะดูดอากาศเข้าเครื่องแล้วฟอกอากาศปรับอุณหภูมิให้เย็นตามที่เราต้องการ อากาศที่ดูดเข้าไปจะต้องผ่านแผ่นกรองคาร์บอนเพื่อกรองอากาศให้บริสุทธิ์ เมื่อใช้ไปได้ระยะหนึ่ง ฝุ่นและความชื้นที่มากับอากาศจะเข้าไปเกาะแผ่นกรองอากาศนั้น เมื่อมีฝุ่นเกาะมาก ๆ จะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น ตรงนี้จะทำให้เราต้องเสียค่าไฟเพิ่มขึ้น ดังนั้นควรหมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศบ่อย ๆ อย่างน้อยเดือนละ  1 ครั้ง การล้างแผ่นกรองช่างจะเรียกว่าล้างย่อย ส่วนการล้างโดยใช้น้ำฉีด และล้างภายใน จะเรียกว่าล้างใหญ่ ควรทำความสะอาดอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง

     ใช้ฝ้าเพดานที่ช่วยลดความร้อน เพราะฝ้าเพดานที่ดีจะช่วยลดการดูดซับความร้อนจากภายนอกได้ดี บ้านที่เย็นสบาย จะช่วยประหยัดแอร์ได้มาก ไม่ต้องทำให้แอร์ทำความหนัก นอกจากกินไฟแล้ว เห็นบิลค่าไฟสิ้นเดือนคงเป็นลมแน่
     ลดเรื่องร้อนๆ เข้าบ้าน หลังจากทำบ้านให้เย็นสบายแล้ว ก็ถึงเวลาทำใจเย็นๆ บ้างลดเรื่องขัดแย้งกัน มีอะไรก็แบ่งปันกันไป เท่านี้บ้านของคุณไม่ว่าจะเล็กหรือจะใหญ่แค่ไหนก็น่าอยู่ขึ้นค่ะ

รักษาไข่ไว้ให้สดนาน

      ไข่ ไข่ ไข่ เชิญมากินไข่ มาเร็วๆ ไวๆ ไข่ปิ้งใบโตๆ 

ว้าวไม่น่าเชื่อ หลังจากผ่านวิกฤตน้ำท่วมไปไม่นาน เศรษฐกิจบ้านเราก็ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับปริมาณไข่ที่แข่งกันผลิตมากขึ้น ส่งผลให้ขณะนี้มีปริมาณไข่เหลือเฟือในท้องตลาด ทั้งใบใหญ่และถูกขนาดนี้ แม่บ้านหลายๆ คนก็คงอดใจไม่ไหว ซื้อตุนกันไว้เผื่อน้ำมันจะแพงขึ้นอีก อ้าว!! ไม่เกี่ยวกัน เพื่อของอย่างอื่นขึ้นราคา ก็ยังมีไข่ไว้กิน อะไรประมาณนี้ แบบว่าเมนูไข่ ตั้งแต่ ไข่ปิ้ง ไข่เจียว ไข่ดาว ไข่ตุ๋น ไข่ต้ม ไข่พะโล้ ไข่ลูกเขย ไปจนกระทั่งถึงไข่เค็ม ก็ยังเป็นเมนูไข่ที่ยังน่ารับประทานอยู่เสมอ อ๊ะ!! หรืออาจจะเป็น ข้าวผัดไข่ น้ำพริกลงเรือ ผัดไทย หอยทอด ก็ยังต้องมีไข่เป็นส่วนประกอบหลัก หรือจะเลยไปถึงขนมหวาน เช่น ฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด สังขยา ก็ยังไม่พ้นเรื่องไข่ๆ อีกเช่นเคย 
     ว่ากันมาเรื่องไข่เยอะขนาดนี้แล้ว แม่บ้านหลายคนคงอดใจไม่ได้ ซื้อไข่มาตุนกันเป็นแผงๆ กันเลยทีเดียว 
    ที่นี้จะกินคราวเดียวหรือภายในสัปดาห์เดียวคงไม่หมดกันได้ง่ายๆ แน่ๆ ดังนั้นวันนี้จะขอแนะนำวิธีเก็บรักษาไข่ไว้ในตู้เย็นให้อยู่ได้นานๆค่ะ ก่อนอื่นเราต้องการแยกไข่ดี ไข่เสียก่อน โดยการทำไปแช่น้ำ ไข่ดีจะจม  ส่วนไข่เสียจะลอย เมื่อแยกแล้วก็ทำความสะอาดผิวไข่ให้สะอาด จากเศษขนไก่ และขี้ไก่ ด้วยถูเบาๆ ด้วยน้ำเปล่า จนผิวไข่สะอาดดีแล้ว นำมาเช็ดให้แห้ง ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะต้องทำอย่างเบามือ เพราะจะทำให้เปลือกไข่เป็นรอย จะยิ่งทำให้ไข่เสียเร็วยิ่งขึ้น หลังจากนั้นนำไข่ไปทาเนย หรือ น้ำมันพืช เพื่อเคลือบปิดรูอากาศของไข่ ทั้งนี้เพื่อให้ไข่ลดอัตราการสัมผัสกับอากาศ หรือลดการหายใจนั่นเอง ทำให้ยืดอายุของไข่ได้ยาวนาน เท่านี้ไข่จะสดน่ากิน สามารถเก็บไว้ได้หลายวัน แม้จะตุนไว้มาก ๆ ก็ไม่ปัญหาอะไร ทานเมื่อไรก็ได้ ไข่ไม่เสีย คุณแม่บ้านลองนำไปทำดูนะคะ

ระวังกิ่งไม้แห้ง

      เข้าหน้าแล้งอย่างนี้แล้วต้องระวังฟืนไฟกันให้ดีนะคะ ต้นไม้ใหญ่ที่เคยให้กิ่งก้านสาขา ร่มเงาที่เคยเย็นสบาย เมื่อมาถึงหน้าแล้งอย่างนี้ อากาศร้อนทำให้ใบไม้ต้องทิ้งใบเืพื่อรักษาตัวเองไว้ไม่ให้ต้องตายอันเกิดจากการคายน้ำมากเกินไป เราจึงมักเห็นใบไม้แห้งล่วงหล่นมาพื้น และกิ่งที่แห้งอยู่กับต้น ก็ดูเป็นสวยดีไปอีกแบบ
      บ้านไหนที่มีต้นไม้เยอะๆ ก็ควรระวังเรื่องของเศษใบไม้ที่มักจะมีพวกสัตว์เลื้อยมีพิษตัวเล็กๆ อาศัย จำพวก ตะขาบ กิ้งกือ แมงป่อง เป็นต้น ดังนั้นควรกำจัดเศษใบไม้อยู่เป็นประจำ อาจใช้วิธีฝังกลบ หรือนำไปทำปุ๋ยอินทรีย์ก็ได้ประโยชน์อีกต่อนึงค่ะ  สำหรับกิ่งไม้ไหญ่ๆ ที่ร่วงลงมาโดนหัวใคร รถใคร ก็อาจทำให้เกิดความเสียหายไม่น้อย ควรริดกิ่งบ้างเพื่อป้องกันความปลอดภัย และยังเป็นการดูแลตกแต่งต้นไม้ให้แข็งแรง จะได้แตกกิ่งก้านสาขาใหม่ให้ร่มเงามากขึ้นไปอีก กิ่งไม้อาจนำไปเป็นฟืนหุงต้มได้ ก็ประหยัดค่าแก้สไปได้อีกแรงนึง หรือจะเอาไปขายให้คนทำถ่าน นำมาทำเป็นถ่านใช้ต่อไป
      สำหรับบ้านใครที่อยู่ใกล้กับอุทยานยิ่งต้องระมัดระวังให้มาก เพราะเมื่อเกิดไฟป่า ใบไม้แห้งและกิ่งไม้แห้งเหล่านี้จะกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีค่ะ บ้านคุณอาจไม่เหลือเลยก็ได้ ดังนั้นก็ควรจะดูแลรอบๆ บ้านในระยะรัศมี 1-2 กิโลเมตร อาจทำแนวไฟป่าไว้เพื่อป้องกันไฟป่าได้ และควรให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในการดูแลและป้องกันไฟป่า เพื่อให้เรามีป่าอยู่กับเราไปนานๆ

ล้างโซ่จักรยาน

เชื่อว่าหลายๆ บ้าน หลายๆ คน จะมีจักรยานคู่ใจ ไว้เป็นพาหนะ พาคุณไปนู่นมานี่ให้ไม่ต้องเมื่อยขากัน แม้จะไม่ได้กันทุกบ้าน แต่อย่างน้อยบ้านเราก็มี ใช่ไหมค่ะ  เอ๊ะ!!! ยังไง ยังไง
อ๋อ!!! ก็จักรยานคันเก่าของคุณตาไงหล่ะคะ ถึงแม้จะไม่ใหม่เอี่ยมอ่องอรทัย แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในขั้นใช้งานได้ แม้เหล็กจะขึ้นสนิมอยู่บ้าง แต่ถ้าขัดสนิมดีๆ เนื้อเหล็กของจักรยานคันเก่าก็เป็นเหล็กน้ำพี้อย่างดี อาจจะดีกว่าจักรยานบางรุ่นบางคันของสมัยนี้ก็ได้นะคะ อย่าเพิ่งไปคิดว่ามันเก่าแล้ว ลองมาปัดฝุ่นซะหน่อย แก้ไขปรับปรุงนิดหน่อย ขัดสีฉวีวรรณ หยอดน้ำมัน อัดจารบี สักหน่อย เท่านี้คุณก็จะมีจักรยานคันโปรดไว้ใช้แล้วหล่ะคะ ไม่ต้องเสียเงิน อาจจะเสียเวลากันนิดหน่อย
ที่นี้เรามาว่าส่วนสำคัญของจักรยานกัน นั่นก็คือโซ่นะเอง ถ้าโซ่ยังไม่เก่าขนาดสนิมกัดจนขาดแล้วละก็ ลองทำความสะอาดโดยการแช่ในน้ำมันก๊าดสักชั่วโมงนึง น้ำมันก๊าดจะช่วยชะล้างคราบน้ำมัน และฝุ่นละอองหนาๆ ที่เกาะอยู่ให้หลุดออก จากนั้นเอาแปรงทองเหลืองขัดเบาๆ เพื่อตรวจดูสภาพของโซ่ ถ้ายังอยู่ในสภาพที่ใช้ได้ก็ทำความสะอาดต่อจะสะอาด ปัดฝุ่น และขัดสนิมให้สะอาด จากนั้นก็จำไปล้างน้ำให้สะอาด เช็ดโซ่ให้แห้ง แล้วนำกลับมาไว้ที่เดิม หยอดน้ำมันหล่อลื่นเพื่อลดแรงเสียดทานของโซ่สักหน่อย ทำให้ยืดอายุการใช้งานได้ เท่านี้คุณก็จะมีจักรยานสภาพใหม่ไว้พร้อมใช้งานแล้วหล่ะค่ะ

ขอบตู้เย็นเป็นรา

บ้านใครที่ตู้เย็นเก่าแล้ว อายุประมาณ 10 ปีขึ้นไป เรามักจะเห็นขอบตู้เย็นขึ้นรา เพราะขอบตู้เย็นทำด้วยยาง เมื่อสัมผัสความเย็นเมื่อเปิดตู้เย็น กับ ความชื้นในอากาศ บ่อย ๆ เข้าก็จะเกิดราขึ้น ทำให้ดูสกปรก และเก่า ขอบตู้เย็นขึ้นรา นอกจากจะไม่น่าดู น่าสัมผัสแล้ว ยังไม่เกิดผลดีต่อการใช้งานเลย เพราะเชื้อราพวกนี้ตายยาก และยังเป็นสาเหตุของการโรคต่างๆ ตามมาด้วย ตั้งแต่ ภูมิแพ้ ไปจนถึงมะเร็งกันได้เลยนะคะ 


แล้วจะทำอย่างไรเมื่อขอบตู้เย็นเป็นรา 
วิธีที่เราจะสามารถทำความสะอาดตู้เย็นได้ง่าย ๆ ก็คือการเอาน้ำสบู่มาชุบผ้าแล้วเช็ดให้หมดราไปก่อน หลังจากนั้นเช็ดด้วยเบกกิ้งโซดาที่ละลายน้ำแล้วอีกครั้ง ทั้งนี้เพื่อป้องกันราจะกลับมาอีก เมื่อเสร็จแล้วจึงเช็ดให้แห้งและหมดครบอีกครั้ง เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ตู้เย็นใหม่ไว้ใช้ได้อีกนานเลยค่ะ ไม่ต้องไปซื้อใหม่ หรือจ้างช่างให้เสียเงินทองแต่อย่างใด


สำคัญว่า ควรจะหมั่นทำเป็นประจำทุกเดือน หรือทุกสองเดือน ไม่ควรปล่อยให้ขอบตู้เย็นขึ้นรานานเกินไป เพราะจะทำให้ขอบยางเสื่อมได้ง่าย ทำให้ต้องเสียค่าไฟโดยใช่เหตุ และ้ถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนขอบยางจริงๆ เพราะสภาพเก่ามากแล้ว ไอความเย็นออกมาเป็นประจำ ก็ควรรีบเปลี่ยนก่อนที่ค่าไฟที่บ้านของคุณจะพุ่งสูงติดเพดานนะคะ 


ไม่น่าเชื่อว่าการดูแลข้าวของใช้ในบ้านเล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยคุณประหยัดได้มาก มีเวลาว่างก็ลองทำดูนะคะ